แม้จะอยู่ในยุคที่ทุกคนจะต้องตระหนักในเรื่องของการใช้ พลาสติก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพลาสติกนั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญสำหรับมนุษย์เราในการใช้ชีวิตประจำวัน ถึงแม้การใช้ถุงพลาสติกหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกหลาย ๆ ประเภทจะถูกรณรงค์ให้มีการใช้ที่น้อยลง แต่หลายสิ่งของรอบตัวเรารวมถึงในอุตสหกรรมต่าง ๆ นั้น พลาสติก ก็ยังถือว่ามีบทบาทที่สำคัญอยู่ ในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประเภทของพลาสติกทั้ง 7 ประเภท ที่อยู่รอบตัวเรา เพื่อให้ง่ายต่อการแบ่งประเภทของพลาสติกและพลาสติกประเภทไหนบ้างที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้
1.โพลิเอทธิลีนเทเรฟทาเลต (Poly ethylene terephthalate, PET)

studio top-down photo of fitness material, no background, realistic. –personalize z6qfehl –stylize 750 Job ID: d6e654a5-d075-4f00-a46f-033cfe334e15
สามารถทนแรงกระแทก ไม่เปราะแตกง่าย และมีความใส มองเห็นสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในจึงนิยมใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ เพื่อบรรจุน้ำดื่ม น้ำมันพืช และเครื่องสำอาง นอกจากนี้ PET ยังมีสมบัติป้องกันการแพร่ผ่านของก๊าซได้เป็นอย่างดี จึงใช้เป็นภาชนะบรรจุน้ำอัดลม โดย PET สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ใหม่ นิยมผลิตเป็นเส้นใยสำหรับทำเสื้อกันหนาว พรม และเส้นใยสังเคราะห์สำหรับยัดหมอน หรือเสื้อ
2.โพลิเอทธิลีนความหนาแน่นสูง (High density polyethylene, HDPE)
HDPE โพลิเอทธิลีนนั้นมีคุณสมบัติค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ไม่แตกง่าย สามารถทำให้มีสีสันสวยงาม มีราคาถูกสามารถขึ้นรูปได้ง่าย และทนสารเคมี จึงนิยมใช้ทำบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำยาทำความสะอาด แชมพูสระผม แป้งเด็ก และถุงหูหิ้ว นอกจากนี้ภาชนะที่ทำจาก HDPE ยังมีสมบัติป้องกันการแพร่ผ่านของความชื้นได้ดี จึงใช้เป็นขวดนมเพื่อยืดอายุของนมให้นานขึ้น โดย HDPE สามารถนำกลับมารีไซเคิลเพื่อผลิตขวดต่างๆ เช่น ขวดใส่น้ำยาซักผ้า แท่งไม้เทียมเพื่อใช้ทำรั้วหรือม้านั่งในสวน
3.โพลิไวนิลคลอไรด์ (Poly vinyl chloride, PVC)

Bunch of colorful drinking straws on a bright background
PVC เป็นชื่อพลาสติกที่ทุกคนอาจได้ยินชื่อบ่อย ๆ เนื่องจาก เป็นพลาสติกที่นิยมใช้ทำท่อ แต่สามารถทำให้นิ่มโดยใส่สารพลาสติกไซเซอร์ ใช้ทำสายยางใส หรือแม้แต่ม่านในห้องอาบน้ำ นอกจากนี้ PVC เป็นพลาสติกที่มีสมบัติหลากหลาย สามารถนำมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์อื่นได้อีกมาก เช่น ประตู หน้าต่าง วงกบ และหนังเทียม โดยสามารถนำกลับมารีไซเคิล เพื่อผลิตท่อประปาสำหรับการเกษตร กรวยจราจร และเฟอร์นิเจอร์ หรือม้านั่งพลาสติก เป็นต้น
4.โพลิเอทธิลีนความหนาแน่นต่ำ (Low density polyethylene, LDPE)
เป็นพลาสติกนิ่ม สามารถยืดตัวได้มาก มีความใส นิยมนำมาทำเป็นฟิล์มสำหรับห่ออาหารและห่อของ ถุงใส่ขนมปัง และถุงเย็นสำหรับบรรจุอาหาร ทั้งนี้ LDPE ยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ โดยใช้ผลิตเป็นถุงดำสำหรับใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว หรือถังขยะ
5.พลิโพรพิลีน (Polypropylene, PP)
เป็นพลาสติกแข็ง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมี ความร้อน และน้ำมัน ทั้งยังสามารถทำให้มีสีสันสวยงามได้ ส่วนใหญ่นิยมนำมาทำภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม จาน ถัง ตะกร้า หรือกระบอกสำหรับใส่น้ำแช่เย็น โดยสามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้เป็นกล่องแบตเตอรี่รถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น กันชน และกรวยสำหรับน้ำมัน
จะเห็นได้ว่า พลาสติก ยังคงมีบทบาทสำคัญอีกมากมายในหลายอุตสหกรรม หากเรารู้จักที่จะใช้อย่างรู้คุณค่า และรู้จักหลัก 3R ( Reduce Reuse and Recycle ) เพียงเท่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ในระดับหนึ่งแล้วค่ะ
6. Polystyrene (PS)
มีลักษณะ : สีโปร่งใส ดุจแก้ว
- ข้อดี : ทน ต่อ กรด และ ด่าง ได้ดี
- ข้อเสีย : เปราะบาง แตกได้ง่าย
- เหมาะสำหรับบรรจุ : แก้ว จาน ชามพลาสติก สำหรับใช้ครั้งเดียวทิ้ง
7. Other (Often Polycarbonate or ABS)
- มีลักษณะ : ขึ้นกับลักษณะโพลิเมอร์ที่ใช้
- เหมาะสำหรับบรรจุ : ขวดนมเด็ก ขวดน้ำดื่มบางชนิด และ กล่องใส่อุปกรณ์ไฟฟ้า
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : glaselgrand